ส่วนการรับบุตรบุญธรรมนั้น ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม เคยระบุกับบีบีซีไทยว่า “คู่สมรสตามกฎหมายสมรสเท่าเทียมก็สามารถตั้งครอบครัวและรับบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมายการรับบุตรบุญธรรมที่มีอยู่ ซึ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์อีกหมวดหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการสมรสเท่าเทียม”
ประวัติ แม่ตั๊ก กรกนก สุวรรณบุตร จากเด็กที่โตมากับกองขยะ สู่เศรษฐินีรวยพันล้าน
“ในเขตชนบท คนที่โตมาในลักษณะที่ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง หรือมีลักษณะเป็นผู้แม่-ผู้เมีย เขายังคงทำหน้าที่และมีบทบาทในครอบครัวเป็นผู้ชาย กะเทยในสังคมชนบทเป็นสภาวะที่สร้างความครื้นเครง เป็นเรื่องราวสร้างสรรค์ แต่สามารถแต่งงานมีลูก มีเมียได้ ตราบใดที่รับผิดชอบลูกเมียของตัวเอง”
และพรรคก้าวไกล ใช้คำว่า “บุคคลทั้งสองฝ่าย ผู้หมั้น ผู้รับหมั้น” การใช้นามสกุลของคู่สมรส
ดังกล่าวไม่ได้ให้สิทธิการเข้าถึงสวัสดิและสิทธิบางอย่าง เช่นการแปลงสัญชาติตามคู่รัก และการเข้าถึงสวัสดิการของคู่รักอีกฝ่ายหากเป็นข้าราชการ เป็นต้น
เมื่อคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตาย ให้คู่ชีวิตฝ่ายหนึ่งมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับคู่สมรสตามบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก
นักมานุษยวิทยาจากศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธรฯ กล่าวต่อว่า การแสดงละครพื้นบ้านและมหรสพคือหลักฐานหนึ่งที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า ผู้มีความหลากหลายทางเพศในไทยนั้นสามารถแสดงบทความข้ามเพศในที่สาธารณะได้อย่างอิสระมาก่อน
ต.ท.ศานิตย์ จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม จึงไม่ติดใจและยอมถอนการแปรญัตติทำให้ไม่ต้องมีการลงคะแนน
พล.ต.ท.ศานิตย์ อภิปรายเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนคำว่า “คู่สมรส” เป็นคำว่า “คู่ชีวิต” แทน โดยให้เหตุผลว่า หลังจากได้พูดคุยกับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศจำนวนหนึ่งพบว่า การใช้คำว่า “คู่ชีวิต” ถือว่าสื่อสารได้ดีกว่า
ค. โดยเป็นร่างฯ ที่มีเจ้าภาพคือ กรมคุ้มครองสิทธิเสรีและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม
คู่ชีวิตสามารถรับบุตรบุญธรรมได้ และคู่ชีวิตสามารถฝ่ายหนึ่งจะจดทะเบียนรับผู้เยาว์ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่ง มาเป็นบุตรบุญธรรมของตนเองก็ได้
ร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ได้มีการนำบทบัญญัติภายใน ป.พ.พ.มาใช้เท่าเที่จะไม่ขัดกับตัวร่างพ.ร.บ.คู่ชีวิต ตัวอย่างเช่น ให้นําบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยครอบครัวและบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิของคู่สมรสหรือสามี ภริยาตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายอื่นมาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตด้วยโดยอนุโลม” และในหมวด ⅔ บิดามารดากับบุตร ที่ได้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วย บิดามารดา สิทธิและหน้าที่ของบิดามารดาและบุตร และความปกครอง มาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตในกรณีที่ ฝ่ายหนึ่งเป็นชายและอีกฝ่ายหนึ่งเป็นหญิง รวมทั้งบุตรของคู่ชีวิตนั้นมาใช้โดยอนุโลมเช่นเดียวกัน
เสนอ ก่อนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพียงหนึ่งวัน โดยเพิ่มสิทธิของคู่รักเพศเดียวกัน ตัวอย่างเช่น
นอกจากนั้นในมุมมองเรื่องหมั้น ที่แต่เดิมให้ชายโดยกำเนิดเท่านั้นที่จะเป็นผู้รุกเริ่มนำของหมั้นไปหมั้นหญิง ก็กลับกลายเป็นว่าใครใคร่หมั้นก็หมั้น ไม่มีข้อที่จะต้องบังคับกะเกณฑ์ว่าเพศชายต้องเป็นฝ่ายรุกเริ่ม ซึ่งหมายความว่า กฎหมายให้อิสระในการกำหนดชีวิตเป็นสถาบันครอบครัวของบุคคลโดยไม่คำนึงเพศ แม้กระทั่งเรื่องฝ่ายเริ่มต้นเข้าหาอีกฝ่ายเพื่อการมอบของหมั้น ก็ไม่มีการกำหนดเจาะจงเพศอีกต่อไป